สถาปนิก Claus en Kaan ได้ระบุถึงไม้วอลนัทอเมริกัน นำมาใช้สำหรับพื้นและเครื่องไม้ เช่น ประตู หน้าต่าง ภายในศูนย์การเรียนมหาวิทยาลัยอีราสมุส ในเมืองรอตเทอร์ดาม ประเทศเนเธอร์แลนด์ รูปถ่ายโดย Bart Gosselin
ในการออกแบบผู้นำทั้งสิบคนได้มอบหมายให้นักออกแบบหน้าใหม่สิบคนสร้างชิ้นงานที่อยากสร้างมาตลอดใน The Wish List ซึ่งโครงการนี้ริเริ่มโดย AHEC A Seat in Human Form เป็นสิ่งที่ Allen Jones ต้องการ ซึ่ง Loly lely ได้ออกแบบและสร้างมันสำหรับเขาโดยใช้ไม้วอลนัทอเมริกัน
สถาปนิกออกแบบและตกแต่งภายใน AHK ระบุว่าไม้วอลนัทอเมริกัน มีสีเอิร์ธโทนเข้มและมีความสวยงามที่โดดเด่น จึงเหมาะแก่การนำมาใช้ทำพื้น ทำชั้นหนังสือ และกำแพงในห้องสมุดมหาวิทยาลัยซัยยิด ประเทศดูไบ
ในการออกแบบผู้นำทั้งสิบคนได้มอบหมายให้นักออกแบบหน้าใหม่สิบคนสร้างชิ้นงานที่อยากสร้างมาตลอดใน The Wish List ซึ่งโครงการนี้ริเริ่มโดย AHEC 6 X 500 เป็นสิ่งที่ Amanda Levete ต้องการ ซึ่ง Win Assakul ได้ออกแบบและสร้างมันสำหรับเธอโดยใช้ไม้วอลนัทอเมริกัน
ไม้วอลนัทอเมริกันเป็นพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดทั่วโลก และมีสายพันธุ์เฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ
Juglans nigra
วอลนัทดำ
ต้นวอลนัทอเมริกันเจริญเติบโตไปทั่วทางซีกตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ในบริเวณป่าไม้เนื้อเเข็งผสม เเละในไร่ โดยเน้นไปทางสหรัฐอเมริกาตอนกลาง เเต่แพร่กระจายจากรัฐเท็กซัสไปจนถึงชายฝั่งทะเลตะวันออก ต้นไม้ชนิดนี้เป็นสายพันธุ์ไม้เนื้อเเข็งส่วนน้อยที่มีการปลูก และจะเจริญเติบโตเองตามธรรมชาติ ต้นไม้เหล่านี้ค่อนข้างเติบโตเป็นต้นสูงเเละตรง พร้อมทั้งมีการเเตกกิ่งก้านเป็นทรงพุ่มต่ำ
ข้อมูลจาก FIA แสดงให้เห็นว่าปริมาณการเติบโตของไม้วอลนัทในสหรัฐอเมริกา คือ 137.8 ล้าน ม3 ซึ่งคิดเป็น 0.9% ของปริมาณการเติบโตของไม้เนื้อเเข็งทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ต้นวอลนัทอเมริกันกำลังเติบโตขึ้นเป็น 4.8 ล้าน ม3/ต่อปี ในขณะที่ปริมาณการเก็บเกี่ยวอยู่ที่ 1.9 ล้าน ม3/ต่อปี ปริมาณสุทธิ (หลังจากเก็บเกี่ยว) เพิ่มน 2.9 ล้าน ม3 ในเเต่ละปี ปริมาณการเติบโตของต้นวอลนัทในสหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นในทุกรัฐที่ส่งออกไม้วอลนัทลนัท ยกเว้นรัฐมิชิแกน
ไม้วอลนัทจากสหรัฐอเมริกา หาได้ง่าย โดยมาในรูปแบบของไม้เลื่อยแปรรูปและแผ่นไม้อัด ไม้แปรรูปชนิดนี้จำหน่ายโดยทั่วไปในรูปแบบที่ยังไม่ผ่านการอบไอน้ำ และยังไม่เลือกสี ผู้ผลิตเฉพาะทางอาจจะเสนอไม้วอลนัทที่อบไอน้ำ เพื่อทำให้กระพี้มีสีเข้มขึ้น และเพื่อลดความเเตกต่างของสีระหว่างแก่นไม้กับกระพี้ ไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น ทั่วโลกต้องการซื้อไม้สายพันธุ์นี้อย่างมาก เกณฑ์การให้เกรดของ NHLA ได้มีการปรับเปลี่ยนสำหรับไม้วอลนัท โดยยอมให้ข้อจำกัดน้อยลง การตัดไม้น้อยลงกว่าเดิม เเละให้กระพี้เป็นที่ยอมรับโดยไม่มีข้อจำกัดจำกัด จำกัด แนะนำว่าควรปรึกษากับซัพพลายเออร์
ไม้วอลนัทเป็นไม้เนื้อเเข็ง ทนทาน และมีความหนาเเน่นปานกลาง ไม้ชนิดนี้ดัดได้ปานกลาง ทนทานต่อเเรงกระเเทก และเป็นไม้ที่มีความเเข็งต่ำ ไม้ชนิดนี้จัดให้อยู่ในหมวดหมู่ไม้ที่ดัดด้วยไอน้ำได้ดี
ไม้วอลนัทได้รับการพิจารณาให้เป็นสายพันธุ์ไม้ที่ดีที่สุดสำหรับนำไปใช้ทำเครื่องเรือนราคาเเพง รวมถึงตู้ ประตูเเละงานไม้กรอบประตูหน้าต่างภายใน ไม้ชนิดนี้ใช้สำหรับการทำพื้นและติดผนัง เเละใช้งานได้อย่างกว้างขวางซึ่งตรงข้ามกับไม้เนื้อเเข็งชนิดอื่น ๆ